วันศุกร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2551

เทศกาลกินเจ

ความหมายของคำว่า "เจ"
คำว่า “เจ” ในภาษาจีนมีความหมายทางพุทธศาสนาฝ่ายมหายานว่า
“อุโบสถ” คำว่า “กินเจ” ตามความหมายที่แท้จริงคือการรับ ประทานอาหาร
ก่อนเที่ยงวันดังเช่นที่ชาวพุทธ ในประเทศไทย ถือ “อุโบสถศีล”หรือ “รักษา
ศีล 8”จะไม่รับประทานอาหารหลังจากเที่ยง วันไปแล้ว แต่เนื่องจากการ ถือ
อุโบสถศีลของชาวพุทธฝ่ายมหายานไม่กินเนื้อสัตว์จึงนิยมเรียก“การไม่กิน
เนื้อสัตว์” ไปรวมกับคำว่า “กินเจ” ซึ่งเป็นการถือศีลไปด้วยในปัจจุบันผู้ที่่รับ
ประทานอาหารทั้ง 3 มื้อ แต่ไม่กินเนื้อสัตว์ก็ยังคงเรียกกันว่า “กินเจ” ความ
หมายก็คือ “คนกินเจ” ไม่เพียงแต่ไม่กินเนื้อสัตว์ยังต้องดำรงตนอยู่ใน ศีล
ธรรมอันดี บริสุทธิ์สะอาดงดงามทั้งกาย วาจา ใจเป็นการถือศีลบำเพ็ญธรรม
ไปด้วยพร้อมกัน จึงเรียกว่า “กินเจที่แท้จริง” ฉะนั้น คำคล้องจองที่เราได้
ยินอยู่เสมอ คือ “ถือศีลกินเจ” นับว่ามี ความหมายสมบูรณ์ครบถ้วนอยใน
ตัวเองแล้ว ตามร้านขาย “อาหารเจ” เราจะเห็น ตัวอักษรภาษาจีนคำ นี้อ่าน
ว่า“ไจ (เจ)” แปลว่า “ไม่มีของคาว” เขียนด้วยสีแดงบนพื้นสีเหลืองเสมอ
ในช่วงเทศกาล กินเจเดือน 9 จะ เห็นอักษรทนี้เขียนบน ผืนธรงสีเหลือง ปัก
อยู่ตาม แผงขายอาหารเจ ทั่วไป ชาว จีนถือว่าสีแดง เป็นสีีแห่งสิริมงคลแห่ง
ชีวิตสีเหลืองเป็นสีของ ผู้ทรงศีล ผู้ตั้งใจบำเพ็ญตนให้บริสุทธิ์ ตัวอักษรนี้ย่อม
เป็นเครื่องเตือน สติให้ผู้ที่กินเจระลึกไว้เสมอว่า การไม่กินเนื้อ สัตว์ คือการ
ปฏิบัติธรรม รักษาศีลของความเป็นมนุษย์ เป็นการเจริญมหา เมตตากรุณา
ธรรมโดยแท้ อันจะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคลแก่มนุษย์ และก่อให้เกิดสันติ
สุขสรรพสัตว์ทั้งปวง

การกินเจ ตั้งมั่นอยู่บนหลักธรรม 2 ประการ คือ
ข้อที่ 1 การดำรงชีวิตอยู่ด้วยอาหารที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่นกล่าวคือ
1.1 การไม่เอาชีวิตของสัตว์ทั้งหลายมาต่อเติมบำรุงเลี้ยงชีวิตของตน
1.2 การไม่เอาเลือดของสัตว์ทั้งหลาย มาเป็นเลือดของตน
1.3 การไม่เอาเนื้อของสัตว์ทั้งหลาย มาเป็นเนื้อของตน
ข้อที่ 2 การดำรงชีวิตอยู่ด้วยอาหารที่ไม่เบียดเบียนตนเอง การรับประ
ทานสิ่งใดก็ตามที่ทำลายสุขภาพของตนเองให้ทรุดโทรมคือการเบียดเบียน
ตนเอง ปัจจุบันวิทยาการก้าวหน้าได้พิสูจน์แล้วว่า เลือดและเนื้อของสัตว์ที่
ถูกฆ่าตายเต็มไปด้วยพิษภัยมากมาย

ข้อห้ามสำหรับคนที่กินเจ
คนกินเจต้องไม่บริโภคพืชผักฉุนทั้ง 5 ชนิด คือ
1 กระเทียม
2 หัวหอม
3 หลักเกียว
4 กุ้ยฉ่าย
5 ใบยาสูบ
เพราะผักทั้ง 5 ชนิดนี้ แม้ไม่ใช่เนื้อสัตว์ แต่ก็ให้ผลร้ายต่อ
อวัยวะหลัก สำคัญของ ร่างกาย
เสียงประทัดดังก้อง กลิ่นธูปคละคุ้งไปทั่วเมือง เริ่มแล้วกับงานเทศกาล
กินเจประเพณีดั้งเดิมปฏิบัติกันมานาน ประชาชนพร้อมใจกันสวม ชุดขาวเพื่อ
แสดงถึง ความบริสุทธิ์ ดังที่เล่าขาน กันมาช้านานว่าประเพณี ถือศีลกินผัก
(เจี๊ยะฉ่าย) จ.ภูเก็ตนั้นเริ่มแรกทอ.กะทู้ ในปี พ.ศ. 2368 พระยาถลาง (เจิม)
ได้ย้ายเมืองถลาง มาตั้งที่บ้านเก็ตโฮ่ซึ่งอุดมไปด้วย แร่ดีบุกแต่บริเวณนั้นเป็น
ป่าทึบและมี ไข้ป่าชุกชุม เมื่อคณะงิ้ว(ปั่วฮี่) จากเมืองจีนมาเปิดการแสดงเกิด
ล้มเจ็บลงจึงได้ม ีพิธีการกินผักขึ้น เพื่อบวงสรวงเทพเจ้า “กิ่วอ๋องไต่ไต่”
(พระผู้เป็นใหญ่ทั้งเก้า) และ ”ยกอ๋องส่องเต่”(พระอิศวร)
หลังจากนั้นโรคภัยไข้เจ็บได้หมดไป ชาวกะทู้เกิดศรัทธาจึงประกอบพิธี
ีกินผักขึ้น เริ่มตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ ถึงวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 รวม 9 วัน 9 คืน ต่อ
มามีผู้อาสาไป อันเชิญ เหี่ยวเอี้ยว(ควันธูป) และ เลื่อนตุ่ย(ป้ายชื่อ) พร้อมทั้ง
คัมภีร์ต่างๆที่ใช้ใน พิธีกินผักที่ มณฑล กังไสประเทศจีนได้กลับมาถึงในวัน
ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 9 เมื่อชาวบ้านทราบข่าวได้จัดขบวนไปรับที่บ้านบางเหนียว
อันเป็นกำเนิดพิธีรับพระแต่บางศาลเจ้าจะไปรับพระที่ชายหาดเพราะเชื่อว่า
เวลานั้นเป็นเวลา ที่เรือสำเภาในอดีตได้เดินทางผ่านมาถึงจ.ภูเก็ตในพิธีกิน
ผักนั้นช่วงบ่ายก่อนวันพิธีหนึ่งวันจะ มีพิธียก
เสาโกเต้ง และชาวบ้านก็จะมาช่วยกันปิดทองที่บริเวณเสาเพื่อเป็นศิริมงคล
เสาจะถูกยกไว้ที่หน้าศาลเจ้าเพื่อประกอบพิธีอัญเชิญเทพเจ้า”ยกอ๋องส่องเต่”
และ”กิ้วอ๋องไต่เต่”มาเป็นประธานในพิธีและจะนำตะเกียง 9 ดวง เป็นสัญ-
ลักษณ ์ ของการเริ่มพิธีไว้บนเสา ตลอด 9 วัน ของพิธีกินเจ
ทางศาลจะมีพิธีต่างๆที่จักขึ้นมา เช่น พิธีอัญเชิญ เทพลำเต้า-ปักเต้า
(เทวดาผู้กำหนดเวลาเกิดและเวลาตาย) และมีพิธีอิ้วเก้ง (พิธีแห่พระ) ซึ่งพิธี
นี้ คือ ม้าทรงทั้งหลายออกจากศาลเจ้าแล้วไปตามบ้านประชาชนที่ตั้งโต๊ะบูชา
บนโต๊ะจะมีของไหว้ที่เป็นผลไม้ มาทำพิธีอวยพรและพิธีนี้ที่ม้าทรงที่ถูกเลือก
โดยพระที่ตนนับถือให้เป็นร่างทรงก็จะเอาดาบหรือมีดแทงที่ปากและแก้มเดิน
ขบวนไปตามถนนต่างๆมีพิธีอาบน้ำมันที่ตั้งบนเตาไฟแล้วเอาราดตาม ร่างกาย
และมีพิธีขึ้นบันไดมีดโดยมีมีดเป็นขั้นบันได หลังจากนั้นมีพิธ ีโก้ยโห้ย (พิธีลุย
ไฟ) ม้าทรงทั้งหลายก็จะลุยไฟเข้าไป จากนั้นจะมีพิธีโฏ้ยห่าน (สะเดาะเคราะห์)
ประชาชนที่ได้ร่วมพิธีจะต้องเดินผ่านสะพานเล็กๆที่ ศาลเจ้าได้จัด ทำขึ้น ขณะ
ข้ามก็โยนเหรียญบาทลงในถังไม้ที่รอง รับอยู่ข้างล่างพร้อมด้วยตุ๊กตา ที่ทาง
ศาลเจ้าได้เตรียมไว้ให้ และในคืนเดียว กันก็มาถึงเวลาที่ต้องไปส่งพระที่ ชาย
หาดชาวบ้านทั้งหลายก็จะจุดประทัดกัน

ไม่มีความคิดเห็น: